ทำผิดมาตลอดชีวิต!! แปรงฟันแห้ง คืออะไร? ต่างจากแปรงปกติอย่างไร

ทำผิดมาตลอดชีวิต!! แปรงฟันแห้ง คืออะไร? ต่างจากแปรงปกติอย่างไร

แปรงฟันแห้ง คืออะไร?

ทำเอาหลายคนสับสน งุนงง ถึงกรณีที่มีการเปิดเผยว่าการแปรงฟันที่เราทำกันมาตลอดชีวิตนั้นเป็นวิธีที่ผิดและไม่ได้ช่วยในการบำรุงรักษาฟันเลย เฟรชมิ้นเลยจะมาเสนอข้อเท็จจริงว่า การแปรงฟันแห้งนั้นเป็นอย่างไร? ทำได้จริงหรือไม่? แล้วผลลัพธ์ที่ได้นั้นแตกต่างจากการแปรงแบบปกติที่เราทำกันนั้นมากน้อยแค่ไหน ไปดูกันเล้ยย!!

ไม่ต้องใช้น้ำ

การแปรงฟันแบบแห้งนั้นจะไม่มีการใช้น้ำตั้งแต่ก่อนแปรงและหลังแปรง ขั้นตอนการแปรงนั้น เราไม่ต้องบ้วนปากด้วยน้ำและไม่ต้องทำให้แปรงเปียกก่อนบีบยาสีฟันลงบนแปรง เพื่อลดปริมาณฟองที่เกิดขึ้นซึ่งจะทำให้แปรงลำบากหรืออาจนำแปรงสีฟันล้างน้ำก่อน แล้วทำการสะบัดแปรงให้แห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนจะบีบยาสีฟันลงไปและทำการแปรงฟันตามปกติ จากนั้นไม่ต้องบ้วนปากด้วยน้ำเพื่อล้างยาสีฟันออก ทำเพียงบ้วนน้ำลายและฟองยาสีฟันที่ติดอยู่ในปากทิ้งก็เพียงพอแล้ว เมื่อเสร็จสิ้นการแปรงฟันแบบแห้งแล้วจำเป็นต้องงดน้ำ งดอาหารอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เพื่อให้ฟลูออไรด์ในยาสีฟันนั้นสามารถคงประสิทธิภาพได้เต็มที่

แล้วคราบยาสีฟันที่เหลือล่ะ?

เป็นคำถามที่ทุกคนต้องคิดไว้แน่นอนว่าจะเป็นอันตรายหรือไม่? ตรงนี้ตอบได้เลยว่า สารฟลูออไรด์นั้นหากมีปริมาณที่เหมาะสมนั้นจะไม่มีอันตรายใดๆ ส่วนสาร โซเดียมลอริลซัลเฟต ที่มีไว้เพื่อลดแรงตึงผิวนั้นจะมีปริมาณที่น้อยเกินกว่าจะทำอันตรายใดๆ ต่อร่างกายได้เช่นกัน

ผลลัพธ์ดีกว่า?

ด้วยการที่การแปรงฟันแห้งนั้นไม่มีขั้นตอนการบ้วนปากหลังแปรงฟันเสร็จ สารฟลูออไรด์ที่อยู่ในยาสีฟันจะทำหน้าที่ยึดเกาะกับผิวฟันได้ดีขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพการป้องกันฟันผุได้ดีขึ้นและยาวนานขึ้นในแต่ละวัน

หลังการแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์

ฟลูออไรด์จะมีความเข้มข้นมากในครึ่งชั่วโมงแรก ซึ่งฟลูออไรด์ที่ค้างอยู่ในช่วงครึ่งชั่วโมงนี้มีประโยชน์อย่างมากในการซ่อมแซมผิวฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันผุ ถ้าหลังแปรงฟันยิ่งบ้วนน้ำหลายครั้งปริมาณความเข้มข้นของฟลูออไรด์ในปากจะลดลงอย่างมาก ทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุด้อยลงตามไปด้วย การการงดน้ำและอาหารหลังการแปรงแบบแห้งนั้นก็เป็นเหตุผลเดียวกันนั่นเอง ทำให้การป้องกันฟันผุจะลดน้อยลงและถ้าเพิ่งแปรงฟันเสร็จแล้ว มาดื่มน้ำหรือทานอาหารทันทีฟลูออไรด์ในช่องปากจะยิ่งลดลงมากขึ้น
โดยการแปรงฟันแห้งนั้นสามารถแปรงได้วันละ 2 ครั้ง เหมือนการแปรงปกติ คือการแปรงหลังอาหารเช้าและอีกครั้งก่อนนอน โดยไม่รับประทานอะไรอีก ครั้งละ 2 นาทีเป็นอย่างน้อย และเพิ่มเติมการขจัดเศษอาหารในซอกฟันด้วยการใช้ไหมขัดฟันก่อนการแปรงในแต่ละครั้ง เพื่อเปิดผิวฟันให้เราแปรงเข้าไปได้ทั่วทุกซอกฟัน ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น การแปรงฟันแห้งนั้่นจะช่วยให้การแปรงฟันในแต่ละครั้งมีประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุจากสารฟลูออไรด์ได้อย่างเต็มที่นั่นเอง

ยาสีฟัน แตกต่างที่ส่วนผสม ก่อนซื้ออย่าลืมเช็ก

ยาสีฟัน แตกต่างที่ส่วนผสม ก่อนซื้ออย่าลืมเช็ก

ยาสีฟัน ในท้องตลาดปัจจุบันนอกจากจะมีแบบสูตรปกติที่เราคุ้นเคยกัน ผู้ค้าแต่ละแบรนด์ก็จะมีสูตรใหม่ๆ ส่วนผสมใหม่ๆออกมาอยู่เสมอ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้มีทางเลือกที่มากขึ้น โดยที่ผู้บริโภคเองก็อาจไม่แน่ใจในสรรพคุณที่อยู่บนฉลากของยาสีฟันว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาช่องปากของเรานั้นได้ดีกว่าเดิมหรือไม่ หรือสุดท้ายแล้วก็เหมือนๆกันเพียงแค่เปลี่ยนรูปลักษณ์ให้ดูน่าสนใจขึ้นเท่านั้น เฟรชมิ้น จึงขอมาอธิบายว่าจะเลือกยาสีฟันให้เหมาะกับเราอย่างไรจากการดูส่วนผสมจากฉลากในห้างร้านที่เราไปซื้อกัน

สารขัดถู (Abrasives)

คือสารที่มักผสมอยู่ในยาสีฟันทั่วไป ซึ่งมีหน้าที่กัดกร่อน ขจัดคราบแบคทีเรียและคราบต่างๆที่มายึดเกาะกับฟันของเรา โดยสารอนุภาคเล็กๆเหล่านี้ได้แก่ แคลเซียมคาร์บอเนต ซิลิกา อลูมิเนียมออกไซด์และแมกนีเซียมคาร์บอเนต นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีการนำ "ชาร์โคล" (Charcoal) เข้ามาเป็นส่วนผสมในยาสีฟัน ซึ่งก็มีฤทธิ์กัดกร่อนเช่นกันแต่มีความรุนแรงมากกว่าสารที่กล่าวมาข้างต้น

สารดูดความชื้น (Humectants)

เป็นสารที่ผสมเข้าเพื่อให้ยาสีฟันมีสัมผัสเหมือนนุ่มนิ่มเหมือนเจล ทำให้ผู้ใช้แปรงได้ง่ายขึ้น ทั้งยังมีสารสร้างฟองและสารแต่งรสแต่งกลิ่นเพื่อให้รสสัมผัสต่างๆเมื่ออยู่ในปากแล้ว สามารถใช้งานได้โดยไม่เกิดผลกระทบกับผู้ใช้ โดยที่สารเหล่านี้ไม่ได้ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำความสะอาดแต่อย่างใด

ถือเป็นสารสำคัญของยาสีฟันที่เราจะได้ยินกันอยู่ตลอด โดยฉพาะในฝั่งต่างประเทศ บางประเทศนั้นระบุเลยว่าในยาสีฟันจำเป็นต้องมีสาร "ฟลูออไรด์" เป็นส่วนผสม หน้าที่ของฟลูออไรด์นั้นเป็นเกราะเคลือบฟันป้องกันการทำลายฟันจากแบคทีเรียในช่องปาก ดังนั้นการเลือกซื้อยาสีฟัน ในส่วนผสมนั้นควรมีฟลูออไรด์เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย หรือสารที่มีชื่อว่า "ไฮดรอกซีอะพาไทด์" (Hydroxyapatite) ซึ่งสามารถใช้แทนฟลูออไรด์ได้ ในกรณีผู้ใช้แพ้ฟลูออไรด์แต่อย่างไรก็ตาม ทันตแพทย์ส่วนใหญ่ก็ยังแนะนำให้ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์จะดีกว่า

จากข้อมูลดังกล่าวก็จะสรุปได้ว่า ไม่ว่าผู้บริโภคจะเลือกซื้อยาสีฟันที่มีส่วนผสมอย่างไรก็ตาม ข้อที่ควรคำนึงถึงคือควรเลือกซื้อยาสีฟันที่มีสารฟลูออไรด์เป็นส่วนผสมอยู่ เพราะฟลูออไรด์มีหน้าที่หลักที่สำคัญมากในการปกป้องฟันจากแบคทีเรียในช่องปาก ยาสีฟันที่ใช้จะมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับฟลูออไรด์ที่ผสมเข้าไปในยาสีฟันนั่นเอง

ข่อย ต้นกำเนิดแปรงสีฟัน มีสรรพคุณแค่ไหน มาดูกัน

ข่อย ต้นกำเนิดแปรงสีฟัน มีสรรพคุณแค่ไหน มาดูกัน

ตามเท่าที่มีหลักฐานเริ่มต้นจากชาวบาบิโลนและชาวอียิปต์ได้นำกิ่งไม้มาใช้สีฟัน จากนั้นก็เริ่มใช้ "ไม้เคี้ยว" ที่ทำมาจากไม้หอมเพื่อให้มีลมหายใจหอม สดชื่น รากไม้นี้เมื่อเคี้ยวหรือทุบปลายข้างหนึ่งแล้วนำมาขัดฟัน ใยของมันจะชี้ตั้ง คล้ายขนแปรงสีฟันสมัยใหม่ โดยใช้กันแพร่หลายที่จีนและอินเดีย สำหรับประเทศไทยนั้นเชื่อว่าการแปรงฟันนั้นมีมาตั้งแต่ก่อนสมัยอยุธยา โดยส่วนหนึ่งได้รับการถ่ายทอดหรือเห็นจากพระสงฆ์ที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้เป็นข้อปฏิบัติว่า หากพระสงฆ์ฉันอาหารแล้วไม่ทำความสะอาดฟัน จะผิดวินัย ซึ่งการทำความสะอาดฟัน ท่านเรียกว่า “เคี้ยวไม้ชำระฟัน” โดยใช้ไม้ข่อย ไม้โสน ไม้รากลำพู ไม้สะเดา มากัดแล้วเคี้ยวไปจนละเอียด เสร็จแล้วคายทิ้งอย่างชานหมาก จนเวลาต่อมาให้กัดปลายให้แตก แล้วนำเอาส่วนที่แตกเป็นฝอย สีไปตามฟัน ซอกฟันต่างๆ

เริ่มต้นเมื่อได้กิ่งข่อยมาแล้ว ที่กิ่งไม่แก่ไม่อ่อนเกินไป ขนาดสักเท่านิ้วก้อย ยาวประมาณ 5 นิ้ว จากนั้นก็ลอกเปลือกออกนำไปตากแดดพอหมาด ๆ สัก 3 ชั่วโมง กิ่งข่อยที่ตากแดดมาแล้วนั้น เส้นใยจะเหนียวขึ้น เหมาะสำหรับนำไปทุบทำไม้สีฟัน โดยทุบปลายด้านหนึ่งเข้าไปประมาณ 1 นิ้ว ค่อย ๆ ทุบไป พร้อมกับหมุนกิ่งข่อยไปด้วย ขั้นตอนนี้สำคัญมากๆ หากทุบเร็วและแรงเกินไปเส้นใยของใบข่อยจะขาด หากทุบนิ่มเกินไปจะทำให้สีฟันได้ไม่ดี หรือถ้าแข็งเกินไป เส้นใยก็จะตำเหงือกได้เช่นกัน จากนั้นให้ลอกเปลือกไม้รอบนอกออกและสางไยด้วยเข็มอีกครั้ง ก็เป็นอันเสร็จพร้อมนำไปใช้งาน เมื่อทำไม้สีฟันเสร็จแล้ว ยาสีฟันที่เหมาะกับแปรงกิ่งข่อยที่หาได้ง่ายในยุคปัจจุบันนั่นก็คือ เกลือแกง โดยนำเกลือแกงมาตำให้ละเอียด จากนั้นนำไปเผาด้วยหม้อดินร้อนๆ เพื่อฆ่าเชื้อเสียก่อนหรืออาจจะนำถ่านที่ใช้หุงข้าวมาบดผสมลงไปด้วยก็ได้ เพื่อช่วยให้ฟันขาวขึ้น

ยางจากเปลือกข่อยมีฤทธิ์ต้านและฆ่าเชื้อโรค ป้องกันโรคติดเชื้อจากแบคทีเรียในช่องปาก ป้องกันฟันผุ ลดอาการปวดฟัน โดยเฉพาะใช้รักษาโรคเหงือกอักเสบ โรคปริทันต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันมีการวิจัย โดยใช้แปรงสีฟันกิ่งข่อยกับช่องปากของเด็ก พบว่าการใช้ไม้สีฟันจากข่อยมีประสิทธิภาพดีไม่แตกต่างจากการใช้แปรงสีฟันสมัยใหม่เลย

ข่อยกับการแปรงฟันในยุคปัจจุบัน
แม้ว่าในทุกวันนี้เราจะเลิกการใช้กิ่งไม้มาสีฟันแล้ว ด้วยเหตุผลถึงความยุ่งยากและไม่สะดวกในขั้นตอนการทำก็ตาม แต่ข่อยก็ยังมีความสำคัญในด้านการนำใบข่อยมาสกัดแล้วไปเป็นส่วนผสมในยาสีฟันซึ่งก็มีสรรพคุณในการบำรุงรักษาฟันได้ดีไม่แพ้การใช้กิ่งข่อยมาสีฟันเลย